ดูแลผิวหน้าฝน..รับมือเชื้อรา แบคทีเรีย ที่มากับความชื้นทำร้ายผิว…
ฤดูฝนมาพร้อมสายน้ำที่พรั่งพรูลงมาจากฟากฟ้า อากาศจึงเย็นสบาย ซึ่งอาจทำให้หลายคนไม่ได้ดูแลสุขภาพผิวเหมือนในฤดูร้อนและฤดูหนาว แต่จริงๆแล้วมีปัจจัยหลายอย่างในฤดูฝนที่ทำให้ผิวเสีย เช่น ความชื้น มลพิษ ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกที่มาพร้อมกับลมและฝน
นอกจากนี้ยังมีพวกเชื้อราและแบคทีเรียที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอับชื้น ซึ่งเป็นต้นเหตุของอาการผื่นผิวหนังอักเสบหรือสิว แถมอากาศครึ้มๆในฤดูฝนนี้ยังทำให้บางคนลืมทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันเจ้ารังสียูวีที่มากับแสงแดดซึ่งเป็นตัวการทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ เกิดฝ้า และผิวเสียได้ เมื่อมีปัจจัยมากมายในฤดูฝนที่ทำให้ผิวเสีย จะรอช้าอยู่ไย มาดูแลผิวกันดีกว่าค่ะ
การทำความสะอาดผิว
อย่ามองข้ามเรื่องนี้เชียวนะคะ เพราะเป็นขั้นตอนสำคัญ เนื่องจากในฤดูฝนผิวหน้าต้องเผชิญทั้งความร้อนและความชื้น ทำให้ผิวระบายเหงื่อไม่ดี มีน้ำมันสะสมมากขึ้น แถมได้รับสิ่งสกปรก ฝุ่นควันที่มาพร้อมกับลมฝน ส่วนน้ำฝนนั้นก็มีความเป็นกรดเล็กน้อย แต่
ถ้าในอากาศมีมลพิษปริมาณสูงก็จะทำให้น้ำฝนมีความเป็นกรดมากขึ้น สภาพที่ผิวเจอศึกหนักแบบนี้ จึงเกิดปัญหาตามมา เช่น อาการผื่นผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อรา หรือเกิดสิว ดังนั้นการทำความสะอาดผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญ มีวิธีดังนี้
- ควรรีบทำความสะอาดทั้งผิวหน้าและผิวกายหลังถูกสายฝนกระหน่ำ อย่าปล่อยให้ผิวชื้นแฉะ ส่วนเส้นผมและหนังศีรษะก็มีฝุ่นและสิ่งสกปรกมาจับเช่นกัน จึงต้องสระผมให้สะอาด หลังจากนั้นต้องเป่าผมให้แห้ง หากนอนทั้งๆผมเปียก นอกจากจะทำให้เกิดเชื้อราบนหนังศีรษะแล้ว ยังเป็นหวัดได้นะคะ เพราะอากาศมีความชื้น
- ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวให้เหมาะกับสภาพผิว คนผิวแห้งไม่ควรใช้สบู่ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีครีมเป็นส่วนผสมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ส่วนคนผิวมันต้องหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม และผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อครีมหนักๆ
- ไม่ควรขัดหรือถูหน้า หมั่นล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกิน
การบำรุงผิวและการเลือกใช้เครื่องสำอาง
- การทามอยส์เจอไรเซอร์ การทำความสะอาดผิวเพื่อชำระล้างและลดการอุดตันของสิ่งสกปรกอาจทำให้ผิวเสียความชุ่มชื้นได้ จึงไม่ควรละเลยการทามอยส์เจอไรเซอร์ โดยเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว เช่น คนผิวมันควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเนื้อบางเบาหรือมีน้ำเป็นส่วนผสมหลัก (Water-based) ส่วนคนผิวแห้งอาจใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เช่น กลีเซอรีน
- การทาครีมกันแดด พยายามหาวิธีป้องกันหรือหลีกเลี่ยงแสงแดด ที่ต้องเน้นเรื่องนี้เพราะถึงแม้อากาศในฤดูฝนจะครึ้มเหมือนไม่มีแสงแดดและไม่ร้อน แต่สภาพอากาศเช่นนี้เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เราย่ามใจไม่ปกป้องผิว ผิวก็เลยได้รับรังสียูวีไปเต็มๆ ทำให้ผิวคล้ำ เกิดฝ้า กระ ริ้วรอย และผิวเสียง่าย เพราะแสงยูวีสามารถทะลุผ่านเมฆหมอกมาได้
- ถ้าไม่อยากแก่ก่อนวัย ควรทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ โดยเลือกชนิดที่กันน้ำได้ คนผิวมันอาจใช้ครีมกันแดดที่มีเนื้อเจล (Gel-based) หรือแบบน้ำ ซึ่งไม่เหนียวมากก็ได้ และควรกางร่มหรือสวมหมวกเมื่อออกนอกบ้านเพื่อป้องกันแสงแดด
- การทากรดผลไม้เพื่อผลัดเซลล์ผิว เป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยทำให้ผิวหมองคล้ำดูสดใสขึ้น
- การแต่งหน้า หากกลัวน้ำฝนจะทำให้เครื่องสำอางเลอะหน้า อาจใช้เครื่องสำอางชนิดกันน้ำ แต่ไม่ควรใช้ชนิดที่มีเนื้อหนักเกินไป
- การใช้โทนเนอร์ เพื่อกระชับรูขุมขนและปรับสภาพผิวหลังล้างหน้า ควรใช้ชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม เพื่อไม่ให้ผิวแห้งเกินไป
การสร้างผิวสวยจากภายใน
การดูแลผิวไม่ใช่ดูแลเฉพาะภายนอก อย่าลืมเคล็ด(ไม่)ลับที่ไม่ว่าฤดูกาลไหนก็สามารถนำไปใช้ได้ซึ่งจะทำให้ผิวสวยมาจากข้างใน
กินผักผลไม้หลากสี เพราะมีวิตามินบำรุงผิวชั้นดี โดยเฉพาะวิตามินซีซึ่งช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในฤดูกาลนี้แถมบำรุงผิวอีกด้วย อาจกินซุปผักร้อนๆเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น สามารถต่อสู้กับความชื้นภายนอก นอกจากนี้การกินอาหารที่มีวิตามินอี กรดไขมันโอเมก้า – 3 เช่น ปลาทะเล ก็ช่วยบำรุงผิวด้วย
- ดื่มน้ำเปล่าที่สะอาดบริสุทธิ์เพื่อเติมความชุ่มชื้นจากภายใน
- พักผ่อนและออกกำลังกายให้เพียงพอ (ออกกำลังกายให้เหมาะกับอายุและสภาพร่างกาย)
สุขภาพผิวที่ดี ต้องได้รับการดูแลทั้งจากภายในและภายนอก
คำแนะนำอื่น ๆ
ควรสวมเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าโปร่งเบา เพราะระบายอากาศได้ดี ส่วนเสื้อที่เปียกฝนควรนำไปผึ่งแดดให้แห้งเพื่อไม่ให้เกิดเชื้อรา
- หลีกเลี่ยงการเดินย่ำน้ำ เพราะอาจได้รับเชื้อโรค เช่น โรคฉี่หนู หรือพยาธิไชเข้าสู่ผิวหนัง แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องรีบทำความสะอาดเท้าด้วยการฟอกสบู่และล้างด้วยน้ำสะอาด พร้อมทั้งเช็ดให้แห้ง อาจโรยแป้งบริเวณซอกนิ้วเท้า ส่วนรองเท้า ถุงเท้าและถุงน่องที่เปียกน้ำ อย่าลืมทำความสะอาดแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง
- ในฤดูกาลนี้ผู้ที่ผิวแพ้ง่ายไม่ควรใส่เครื่องประดับโลหะหรือโลหะผสม เช่น นิกเกิล โครเมียม ทองแดง เพราะน้ำฝนและความชื้นจะทำปฏิกิริยากับโลหะ ทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบได้
เมื่อฤดูกาลเปลี่ยน การดูแลผิวก็ควรเปลี่ยนไปบ้าง อย่าเพลิดเพลินกับบรรยากาศของฤดูฝนจนลืมดูแลผิวสวยกันนะคะ
เครดิตโดย https://goodlifeupdate.com
Comments