ไม่ว่าทำอย่างไรหน้าก็ดูโทรม จุดที่สำคัญหลักๆเลยคือ ผิวบริเวณรอบดวงตาเป็นสัญญาณสำคัญของความเหนื่อยล้า ไม่ว่าจะเป็นตาคล้ำ เหี่ยว แห้ง บวม ส่งผลให้ใบหน้าดูอิดโรย สาเหตุเกิดขึ้นได้หลายอย่างด้วยกันคือ
▪ โรคประจำตัว เช่น อาการภูมิแพ้
▪ นอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ
▪ อายุมากขึ้น ผิวบางลง ทำให้ตาคล้ำดูเหี่ยว
▪ ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น
▪ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่รุนแรงกับผิว
▪ น้ำหนักมือที่ทำความสะอาดผิวรุนแรงเกินไป
วิธีแก้ไขปัญหาผิวรอยคล้ำใต้ดวงตานั้น เราจึงสรุป 5 วิธีที่สามารถดูแลตัวเองได้ง่ายๆ ด้วยตนเองดังนี้ค่ะ
? นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
โดยเฉลี่ยแล้วคนเราควรนอนหลับพักผ่อนวันละ 7-8 ชั่วโมง / วัน และเข้านอนก่อนเที่ยงคืน เพื่อให้สอดคล้องกับนาฬิกาชีวภาพ
? รักษาโรคประจำตัว
ถ้ามีโรคประจำตัวอาจส่งผลต่อผิวรอยคล้ำใต้ดวงตาได้ เช่น โรคภูมิแพ้ ควรรักษาให้อาการดีขึ้น ยิ่งถ้ามีอาการคันบริเวณเปลือกตา ควรรักษาให้หาย
? อ่อนโยนต่อผิวรอบดวงตาสำคัญ
เวลาเช็ดเครื่องสำอาง ควรใช้สำลีเนื้อนุ่ม คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนกับผิว ปราศจากสารลดแรงตึงผิวและเช็ดอย่างเบามือ การเช็ดที่รุนแรงไม่ปราณีกับผิว จะส่งผลให้ผิวระคายเคืองและแห้งเหี่ยวมากขึ้นได้
? ปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด
ถ้ามีการออกแดด ควรปกป้องผิวด้วยครีมทาใต้ตาที่มีส่วนผสมของสารกันแดด เพื่อลดความเสี่ยงของปัจจัยรอบข้าง รวมถึงการใส่แว่นกันแดดกรอบกว้างก็สามารถปกป้องดวงตาได้
? ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีค่าพีเอชสมดุลกับผิว
มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระร่วมกับสารให้ความชุ่มชื้น รวมไปถึงสารที่มีคุณสมบัติลดการบวม และลดความหมองคล้ำของผิวรอบดวงตา
หากปฏิบัติตามวิธีการทั้งห้าแล้ว ผิวรอบดวงตายังไม่ฟื้นสภาพ คงจะต้องอาศัยตัวช่วยในการฟื้นฟู บำรุงเสียบ้าง อย่างที่ กราเนด้า คลินิก มีทรีทเม้นท์การดูแลรอบดวงตา (Eye Mask Program) ซึ่งจะช่วยเพิ่มความกระจ่างใส กระชับ เต่งตึง คลายริ้วรอยจากความแห้งกร้านของรอบดวงตาให้จางลง เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าเป็นอย่างดีอันดับต้นๆเลยทีเดียว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : graneda clinic
Instagram : granedaclinic
Line : @graneda (มี@)
Comments