รู้ไหม “วันแม่” ในแต่ละประเทศมีที่มาแตกต่างกัน ไปดูกันว่าประเทศไหนเริ่มต้นจากอะไรกันบ้างค่ะ
? สหรัฐอเมริกา
แอนนา จาร์วิช คือ ผู้ก่อตั้งวันแม่ ของสหรัฐอเมริกา ในปี 1908 หลังจากที่แม่ของเธอ แอน รีฟฟ์ จาร์วิส เสียชีวิต แอนนาซาบซึ้งในพระคุณของแม่มาก จึงจัดพิธีรำลึกที่ St Andrew’s Methodist Church และรณรงค์ให้เกิดการยอมรับวันแม่เป็นวันสำคัญของชาติ เธอต้องต่อสู้กับวู้ดโรว์ วิลสัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในตอนนั้น และเธอก็ทำสำเร็จ ต่อมาในปี 1914 วู้ดโรว์ได้กำหนดให้อาทิตย์ที่สองของเดือนพฤษภาคมเป็นวันแม่อย่างเป็นทางการและถือเป็นวันแม่สากลที่ของหลายประเทศ
วันแม่ในสหรัฐฯ มีความสำคัญรองจากวันคริสต์มาสและวันวาเลนไทน์ มีสัญลักษณ์เป็นดอกคาร์เนชั่น โดยชาวอเมริกันจะมอบดอกคาร์เนชั่นสีแดงและสีชมพูให้กับแม่ที่มีชีวิตอยู่ ส่วนคาร์เนชั่นสีขาว มอบให้แก่แม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว
? อังกฤษ
อังกฤษถือเป็นประเทศแรกในโลกที่จัดวันแม่ เพื่อรำลึกถึงความสำคัญของการเป็นแม่ โดยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ซึ่งเรียกว่าวัน Mothering Sunday ในสมัยนั้นคนส่วนใหญ่จะไป Mother Church หรือโบสถ์แถวๆ บ้าน เด็กๆ จะมอบดอกไม้ให้แก่แม่ ส่วนเด็กผู้หญิงก็จะทำเค้กชื่อว่า Simnel Cakes ให่แก่แม่ของพวกเขา ภายหลัง วัน Mothering Sunday ได้ยุติลงหลังเกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมในอังกฤษ ทำให้การใช้ชีวิตเปลี่ยนไป ต่อมาวันแม่จึงเปลี่ยนเป็นวันอาทิตย์ที่ 4 ในฤดูถือบวชเลนต์ ซึ่งปัจจุบันฤดูถือบวชเลนต์ไม่ได้มีวันที่แน่นอน วันแม่จึงเปลี่ยนไปทุกปี ชาวอังกฤษส่วนใหญ่จะมอบการ์ด หรือดอกไม้ให้แก่แม่
? ฝรั่งเศส
วันแม่ของประเทศฝรั่งเศสมีมาตั้งแต่ปี 1806 โดยนโปเลียนเป็นผู้คิดไอเดียการเฉลิมฉลอง แต่ไม่ได้รับการยอมรับ อย่างไรก็ตามในศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสเริ่มกังวลถึงอัตราการเกิดของประชาการที่ลดน้อยลง จึงจัดให้มีการฉลองวันแม่ ต่อมาในปี 1915 มีการนำประเพณีฉลองวันแม่ของสหรัฐอเมริกามาใช้ในฝรั่งเศสโดยทหารสหรัฐฯ ที่เข้ามาทำสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งในครั้งนั้นมีประชากรเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจึงกระตุ้นการเพิ่มประชากร จึงกำหนดให้มีวันแม่ขึ้นมา และในที่สุดในปี 1950 การฉลองวันแม่ ก็กลายเป็นวันสำคัญอย่างเป็นทางการ
ปัจจุบันวันแม่ฝรั่งเศสจัดขึ้นในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม มีการมอบของขวัญ เช่น ดอกไม้ ช็อกโกแลต หรือการ์ดที่ประดิษฐ์เองพร้อมเขียนข้อความแก่แม่
? เนปาล
วันแม่ในเนปาลจะเป็นที่รู้จักกันว่า วัน Mata Tirtha Ausi จะจัดเฉลิมฉลองตามเดือนจันทรคติในช่วง Dark Fortnight ของเดือน Baishakh (ประมาณเดือนเมษายน และพฤษภาคม)และเนื่องจากเนปาลมีกลุ่มชาติพันธ์กว่า 60 ชาติพันธ์ุ ทำให้ประเพณีการฉลองวันแม่แตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานที่และสภาพภูมิอากาศ บางคนเริ่มแสดงความเคารพต่อแม่ในตอนเช้าเพื่อถือเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดี ส่วนบางคนเริ่มฉลองกันในตอนเย็น หรือบางคนที่แม่เสียชีวิตไปแล้วก็จะนำของศักดิ์สิทธ์ที่เรียกว่า Sida ไปให้แก่บัณฑิต (Sida คือ ข้าว ธัญพืช รวมถึงเสื้อผ้า) หรือไปทำพิธีกรรมริมแม่น้ำให้กับแม่ที่เสียชีวิตไปแล้ว
? เอธิโอเปีย
ชาวเอธิโอเปียเรียกวันแม่ว่า ‘Antrosht’ จัดขึ้นในอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม ในฤดูใบไม้ร่วง หลังจากฤดูฝนจบลง โดยพิธีการจะเริ่มต้นขึ้นด้วยการทำความสะอาดบ้านเพื่อเฉลิมฉลองเป็็นเวลา 3 วัน เด็กผู้หญิงและแม่จะถูกป้ายเนยบนใบหน้าและหน้าอก หลังจากนั้นจะมีการเต้นและร้องเพลงเกี่ยวกับครอบครัว พร้อมกับรับประทานอาหารร่วมกัน
? ปากีสถาน
วันแม่ในปากีสถานเฉลิมฉลองกันวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม ซึ่งเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ปี แต่ก็ได้รับเสียงตอบรับดีมาก โรงเรียนและองค์กรเอกชนจะจัดเฉลิมฉลองเพื่อยกย่องจิตวิญญาณของความเป็นแม่ ผู้คนจะส่งดอกไม้และให้ของขวัญ เค้ก หรือการ์ดแก่แม่
? แอฟริกาใต้
ชาวแอฟริกาใต้เฉลิมฉลองวันแม่กันในวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม เพื่อตระหนักถึงความสำคัญของแม่ และถือโอกาสขอบคุณแม่สำหรับความรักและการดูแลที่แม่มีให้แก่พวกเขาด้วยจิตวิญญาณอันแท้จริง ซึ่งแสดงออกถึงความรู้สึกจริงใจ และความกตัญญู พวกเขาจะมอบดอกไม้และการ์ดเพื่อขอบคุณแม่ ไม่เพียงเท่านั้น ยังขอบคุณย่ายาย รวมไปถึงผู้หญิงทุกคนที่เป็นแม่อีกด้วย
Cr. https://th.hellomagazine.com
Comments