กรอบหน้าบริเวณกรามและคางหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่คมชัด เนื้อบริเวณแก้มหายไป ร่องใต้ตาดูลึกและโทรม ร่องแก้มชัดขึ้น มุมปากคว่ำลง!!
คุณผู้หญิงทั้งหลายกำลังมีปัญหาเหล่านี้หรือไม่ ถ้ามีตามลักษณะตามกล่าวไว้เพียง 1 ปัญหา นั่นบ่งบอกถึงความหย่อนคล้อยที่กำลังจะลดความมั่นใจแล้วล่ะ จึงควรหาวิธี ยกกระชับผิว โดยด่วน!!
เพราะเมื่อวัยย่างเข้าเลข 3 ผิวหน้าของเราจะเริ่มมีความหย่อนคล้อยจนสังเกตได้ ซึ่งความหย่อนคล้อยของใบหน้าเกิดได้จากการเปลี่ยนแปลงของผิวในชั้นหนังแท้ ชั้นไขมัน กระดูก และชั้นพังผืดใต้ชั้นไขมัน ที่เราเรียกกันว่าชั้น SMAS (ปกติชั้นนี้ แพทย์ศัลยกรรมจะใช้ดึงหน้าเวลาผ่าตัด) การผ่าตัดดึงหน้า ในบางรายยังอาจดูไม่เป็นธรรมชาติ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ชั้นอื่นๆ ยังไม่ได้รับการแก้ไขทั้งหมดนั่นเอง
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยยกกระชับผิว การจะเลือกเครื่องมือหรือวิธีการไหน ขึ้นกับสภาพผิวหน้าของแต่ละบุคคลเทคโนโลยีที่ใช้ช่วยกระชับใบหน้าจะช่วยฟื้นฟูผิวที่ชั้นต่างๆ ดังนี้
ผิวชั้นหนังแท้ กระบวนการยกกระชับทำได้โดย
- เลเซอร์ : ความหย่อนคล้อยเกิดจากคอลลาเจนในชั้นผิวลดลงหรือเสื่อมสภาพไปตามวัย เลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับชั้นผิวและยกกระชับใบหน้าได้ เช่น collagen laser, long pulse Nd yag ,คลื่นวิทยุชนิดสองขั้ว (bipolar)
- Botulinum toxin : การฉีดสาร botulinum toxin หรือบางท่านอาจเรียก การฉีด lifting หรือ การฉีด botox/dysport lift ซึ่งเป็นการใช้ toxin ความเข้มข้นที่เจือจาง ฉีดสร้างกรอบหน้าและทำให้ผิวดูยกกระชับ
- Vital injector : เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการยกกระชับผิวชั้นตื้น โดยจะใช้สารบำรุงผิวหลายๆ ชนิดและฟิลเลอร์ ฉีดเข้าไปที่ชั้นผิว นอกจากจะส่งผลให้ใบหน้าดูกระชับขึ้น ยังช่วยให้ผิวฟูและดูอิ่มน้ำ เปล่งปลั่งอีกด้วย
ผิวชั้นไขมัน เมื่อเราอายุมากขึ้นไขมันที่หน้าบางส่วนจะหายไปทำให้เห็นร่องแก้ม ร่องใต้ตา ในขณะที่ไขมันบางส่วนเคลื่อนไปกองที่คางทำให้รูปหน้าดูผิดปกติ การรักษาในชั้นนี้จึงเป็นการเติมบางส่วนที่ขาดและจัดระเบียบไขมันที่อยู่ผิดที่นั่นเอง ซึ่งทำได้โดย
- การฉีดสารเติมเต็ม hyaluronic acid : หรือการฉีดฟิลเลอร์ เข้าไปช่วยเติมเต็มร่องต่างๆ บนใบหน้า นอกจากนั้นการฉีดฟิลเลอร์บางเทคนิคก็จะช่วยยกกระชับหน้าและจัดระเบียบไขมันได้อีกด้วย
- Pneulift : คือ การใช้พลังงานลมช่วยส่งผ่านฟิลเลอร์เป็นละอองเล็กๆ ลงไปที่ผิวให้หน้าอิ่มและดู V-Shape ได้ วิธีการนี้เหมาะสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม แต่ยังอยากใช้ฟิลเลอร์ช่วยเติมเต็มและยกกระชับ นอกจากนั้นยังช่วยเติมเต็มหลุมสิวได้อีกด้วย
ชั้น SMAS ชั้นผิวในการยกกระชับใบหน้าที่แท้จริง ชั้นนี้เป็นชั้นพังผืดที่มีความเหนียวมาก ซึ่งเป็นชั้นที่แพทย์ศัลยกรรมใช้ดึงหน้าเวลาผ่าตัด เทคโนโลยีที่ช่วยรักษาลงไปที่ชั้นนี้จึงเห็นผลค่อนข้างชัดเจนในการยกกระชับ ได้แก่
- Ulthera : เครื่อง Ulthera เป็นการใช้เทคโนโลยีส่งผ่านคลื่นเสียง (หรือคลื่นอัลตร้าซาวด์) พลังงานสูง ลงลึกไปที่ชั้น SMAS ทำให้เกิดการหดตัว และยกกระชับใบหน้าขึ้น ซึ่งได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในระดับสากล ผลของการยกกระชับอยู่ได้อย่างน้อย 1 ปี ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเดียวกัน แต่เจ็บน้อยกว่า คือ Hifu แต่ผลการรักษาก็จะน้อยกว่าและสั้นกว่าตามไปด้วย
- Thermage : คลื่นวิทยุชนิดขั้วเดียวหรือ monopolar เป็นอีกเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการยกกระชับใบหน้าเช่นเดียวกับ Ulthera แต่พลังงานจะลงไปที่ชั้นตื้นกว่า ulthera คือชั้นไขมันด้านล่างที่เหนือชั้น SMAS จึงทำให้ไขมันบางส่วนสลายไปด้วย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับและต้องการลดไขมันที่หน้า หน้าจึงดูเรียว V-Shape แต่สำหรับคนที่หน้าตอบ แก้มตอบ Thermage อาจจะไม่เหมาะสม
ชั้นกระดูก ในผู้ที่อายุมากขึ้น จะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของชั้นกระดูกร่วมด้วย ซึ่งการจะยกกระชับในชั้นนี้ ต้องอาศัยการฉีดฟิลเลอร์ในชั้นลึกลงไป เพื่อเสริมโครงกระดูกและปรับโครงสร้างของรูปหน้าแทน
นอกจากการดูแลด้วยวิทยาการต่างๆ แล้ว การดูแลสุขภาพจากภายใน การเลือกทานอาหารที่ถูกต้อง และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ดูดีทั้งจากภายในและภายนอก
ขอบคุณข้อมูลจาก : ผศ. พญ. ปุณยพัศฐิช์ ศิริธนบดีกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสุขภาพผิวพรรณ รพ. สมิติเวช สุขุมวิท
Comments